หนึ่งสัปดาห์ในประเทศอาร์เจนตินาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และเต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งความประทับใจ ประเทศนี้มีอะไรดีๆมากกว่าที่เคยคิด นอกจากเมืองสีสัน ธรรมชาติสวยงาม หนุ่มๆที่นี่ก็รูปงามน่ามอง (สาวสวยก็เยอะ แต่เราไม่ค่อยมอง)

บอกลาอาร์เจนตินา ก็ถึงเวลาทักทายประเทศชิลี อีกหนึ่งประเทศที่มีความหลากหลายทางภูมิประเทศ เราเริ่มต้นกันที่ดินแดนปาตาโกเนียทางตอนใต้ที่เมืองปูเอร์โต้ นาตัลเลส  (Puerto Natales) เป้าหมายของการมาที่นี่คือ อุทยานแห่งชาติตอร์เรส เดล ไปเน่ (Parque Nacional Torres Del Paine) ก่อนค่อยๆเขยิบขึ้นไปทางทิศเหนือของประเทศ

ปาตาโกเนีย เป็นดินแดนในฝันและเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ฉันเดินทางมายังทวีปอเมริกาใต้ จำไม่ได้ว่าฉันเห็นภาพดินแดนปาตาโกเนียครั้งแรกตอนไหน แต่มันตราตรึงและเก็บเอาไปฝันว่าวันหนึ่งฉันจะเดินทางมาที่นี่ให้ได้ ที่นี่เป็นเหมือนแดนสวรรค์สำหรับคนรักธรรมชาติและการผจญภัยอย่างฉัน เป็นสถานที่ที่รวมเอาความอัศจรร์ของธรรมชาติหลายๆอย่างมารวมกัน ทั้งภูเขา ทะเลสาบ ป่าไม้ ทุ่งหญ้า และธารน้ำแข็ง

จากดินแดนปาตาโกเนียฝั่งอาร์เจนตินา เมืองเอล กาลาฟาเต้ เรานั่งรถบัสข้ามมายังฝั่งประเทศชิลี ที่เมืองปูเอร์โต้ นาตัลเลส ใช้เวลาเดินทางกว่า 6 ชั่วโมง วิวสองข้างทางสวยงามเพลินมอง

นั่งชมวิว คุยนู่นนี่กัน เผลอหลับไปบ้าง แล้วเราก็เดินทางมาถึงชายแดนประเทศอาร์เจนติน่ากับชิลี นี่เป็นครั้งแรกที่เรานั่งรถบัสข้ามแดนในอเมริกาใต้ พนักงานรถบัสเรียกให้เราเอาของลงจากรถ มีสุนัขตำรวจขึ้นมาตรวจบนรถ ต้องขนกระเป๋าทุกใบลงไปแสกนตรวจความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตรวจเจอส้มสามลูกในกระเป๋าใบเล็กของฉัน เขาถามว่า “จะทิ้งหรือจะกินก็ได้นะ แต่ห้ามเอาเอาผ่านแดน” ฉันเลือกที่จะแกะเปลือกส้มกินตรงนั้น ก็มันเสียดาย แล้วเราก็ได้เรียนรู้ว่า กฏการนำเข้าผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ที่นี่เข้มงวดกว่าที่คิด

แล้วพาสปอร์ตของฉันก็มีตราประทับของประเทศใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งประเทศ ความจริงแล้วสำหรับฉัน

จำนวนครั้งของการเดินทาง จำนวนตราประทับของประเทศต่างๆ ก็ไม่ได้สำคัฐไปกว่า ประสบการณ์ที่ได้เก็บเกี่ยวใส่กระเป๋าเดินทางกลับบ้านมาด้วย

หลังจากนั่งรถบัสมาหลายชั่วโมง เราเดินหาโฮสเทล The Singing Lamb ที่จองไว้ พนักงานที่นี่ต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง หลังเก็บข้าวของในห้อง ล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น เราออกไปเดินซื้อเสบียงอาหารและสำรวจเมือง

ปูเอร์โต้ นาตัลเลส เมืองชายแดนชิลี-อาร์เจนตินา เป็นจุดพักของคนที่มาเดินป่าหรือท่องเที่ยวที่อุทยานฯชาติตอร์เรส เดล ไปเน่ แม้เป็นเมืองเล็กๆแต่ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวครบครัน ในตัวเมืองมีร้านอาหารท้องถิ่นอร่อยๆให้เลือกหลายร้าน

บ้านเมืองของชาวประมงสีสันสดใส บ้างทำจากไม้ บ้างตีผนังด้วยสังกะสี แม้ขนาดไม่ใหญ่โตแต่แลดูน่ารัก

 

ผู้คนที่นีใจดีเป็นมิตร และดูมีความสุขง่ายๆ

ฉันปล่อยให้วันแรกที่ปูเอร์โต้ นาตัลเลสเป็นวันสบายๆ เดินไปชมบรรยากาศยามเย็นริมทะลสาบชวนให้ผ่อนคลายสบายใจ

วิวทะเลสาบที่มีภูเขาเป็นฉากหลัง เดินเล่นถ่ายรูปเพลินเลย

ปูเอร์โต้ นาตัลเลส อาจดูเหมือนไม่ค่อยมีอะไร

ในความไม่มีอะไรนี่แหละ ที่มันมีอะไร

ข้อมูลเพิ่มเติม

การเดินทาง สามารถบินไปลงที่เมืองเอล กาลาฟัทเต้ (El Calafate) ประเทศอาร์เจนตินา หรือเมืองปุนตา อาเรนาส (Punta Arenas) ประเทศชิลี หากเดินทางมาจากเมืองเอล กาลาฟัทเต้ นั่งรถบัสไปยังเมืองปูเอร์โต้ นาตัลเลส ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง จากเมืองปุนตาส อาเรนาส นั่งรถบัสไปยังเมืองปูเอร์โต้ นาตัลเลส ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งมีบริษัทรถและเวลาให้เลือกเยอะ เช่น Bus Sur, Bus Fernandez และ Buses Pacheco

A dream journey to South America

Part I เรื่องเล่าก่อนออกเดินทาง

Part 2 A Colourful Day in Buenos Aires

Part 3 Ushuaia Welcome to The End of The World

Part 4 Penguins and more on the Beagle Channel

Part 5 Nature walk in the Tierra del Fuego

Part 6 El Calafate and its secret destination

Part 7 Adventure day on the BIG ICE

Part 8 Mt. Fitz Roy, where are you?

Part 9 Puerto Natales: A charming frontier town