ฉันเชื่อว่า… มนุษย์เราออกเดินทาง เพื่อค้นพบเส้นทางที่เหมาะสมกับตัวเอง

การเดินทางที่ผ่านมาของชีวิต ทำให้รู้ว่า ฉันเป็นคนที่หลงรักภูเขามาก และนี่ก็เป็นเหตุผลหลักที่ฉันเดินทางมายังดินแดนปาตาโกเนีย ดินแดนสวรรค์ของคนรักธรรมชาติและการผจญภัย

เอล กาลาฟาเต้ (El Calafate) เมืองเล็กๆในปาตาโกเนียฝั่งประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นเหมือนศูนย์กลางการเดินทางในภูมิภาคนี้ จนได้รับการเรียกขานว่า เมืองหลวงแห่งธารน้ำแข็ง (The capital of glaciers)

แม่เหล็กที่ดึงดูดให้เรามาที่นี่ก็คือ อุทยานแห่งชาติลอส กลาซิอาเรส (Los Glaciares National Park หรือ Parque Nacional Los Glaciares) ที่มีธารน้ำแข็งอันยิ่งใหญ่และเส้นทางเดินเขามากมายรอต้อนรับเราอยู่

เราเดินทางจากเมืองอูซัวย่ามายังเมืองเอล กาลาฟาเต้ โดยสารการบินสีฟ้าขาวประจำชาติอาร์เจนตินา (Argentina airline) ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ เป็นอีกครั้งที่เรามาถึงก่อนเวลากำหนด คนที่นี่บอกว่า สายการบินมักเผื่อเวลาไว้สำหรับเผชิญกับสภาพอากาศที่แปรปรวนของที่นี่ นับว่า…เราเริ่มต้นการเดินทางได้ดี (แต่ก็อย่าเพิ่งวางใจไป)

(ภาพแผนที่จาก roundtripticket.me)

จากนั้นก็ขึ้นรถ Shuttle bus ไปส่งที่โฮสเทลที่จองไว้ รถจะทยอยส่งนักท่องเที่ยวตามที่พักต่างๆจนครบ ฉันสังเกตว่า ถึงแม้เอล กาฟาเต้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่มีที่พักหลากหลายระดับให้เลือกสรร โรงแรมใหญ่ๆหรูๆมักอยู่บนเนินเขานอกเมือง เพื่อครอบครองวิวทะเลสาบสวยๆ โฮสเทลส่วนใหญ่จะอยู่ในตัวเมืองเพื่อความสะดวกสบาย ส่วนเราเลือกพักที่ America del Sur Hostel โฮสเทลที่อยู่ไกลเมืองออกมาหน่อย แต่มีวิวระเบียงสวยไม่แพ้โรงแรมหรูๆ

ก่อนเดินทาง ฉันติดต่อกับทางโฮสเทลเพื่อสอบถามข้อมูลการเดินทางและสถานที่ท่องเที่ยว ส่งอีเมลล์กันไปมาอยู่หลายรอบ ตอนเช็คอิน Oliwia พนักงานต้อนรับของโฮสเทลเคยติดต่อกันทางอีเมลล์ ต้อนรับฉันและพูดคุยกันอย่างกับเพื่อนที่รู้จักกันมานาน การพูดคุยกันอย่างถึงพริกถึงขิงจึงคงดึงดูดให้ Jessica พนักงานอีกคนเข้ามาร่วมวงด้วย พอเธอรู้ว่าเราเป็นคนไทย ก็ชวนคุยใหญ่ เล่านู่นเล่านี่ แนะนำสิ่งต่างๆ และจบลงด้วยการแลกเปลี่ยนอีเมลล์ส่วนตัวกัน เพราะเธออยากมาเที่ยวเมืองไทยมากๆ (สองเดือนก่อน ฉันได้รับอีเมลล์จาก Jessica พร้อมภาพถ่ายของเธอที่ยิ้มร่าอยู่กับช้างไทยที่เชียงใหม่)

…เป็นอีกครั้งในการเดินทาง ที่ฉันได้รับการต้อนรับด้วยมิตรภาพและรอยยิ้ม และนี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ฉันประทับใจโฮสเทลแห่งนี้มาก นอกเหนือไปจากวิวทะเลสาบสวยๆริมระเบียง

---

ปั่นจักรยานชมเมือง

---

หลังเก็บของเสร็จ เราก็เช่าจักรยานของโฮสเทลออกไปปั่นชมเมืองและพระอาทิตย์ตกริมทะเลสาบอาร์เจนติโน (Lago Argentino) ตามคำแนะนำของพนักงานโฮสเทล เราค่อยๆปั่นลงเขาเข้าไปในตัวเมือง ผ่านถนนเส้นหลักที่ดูคึกคักไปด้วยโฮสเทล ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก เป็นเมืองท่องเที่ยวย่อมๆ เราแอบเล็งซุปเปอร์มาร์เก็ตประจำเมืองไว้ เอาไว้แวะตอนขากลับเพื่อซื้อเสบียงไปทำอาหารและทำแซนด์วิชสำหรับไปเดินเขาในวันถัดไป

เราเลี้ยวเข้าซอยนั้น ออกซอยนี้อยู่นานกว่าจะมาโผล่ที่ริมทะเลสาบ หรือเรียกสั้นๆว่าหลงนั่นเอง

ฉันแอบชอบบ้านเรือนของคนท้องถิ่นก่อนทางออกมายังทะเลสาบ ดูเป็นหมู่บ้านที่สงบและน่าอยู่มากๆ รายล้อมด้วยทะเลสาบและภูเขา

บรรยากาศริมทะเลสาบอาร์เจนติโนดูสงบมาก เราปั่นจักรยานไปแวะไปตลอดทาง

ถนนริมทะเลสาบที่นี่กว้างและโล่งมาก ถ้าไม่นับลมแรงๆที่พัดมาให้รู้สึกหนาวเหน็บเป็นระยะๆ ฉันก็อยากมีบ้านอยู่แถวนี้จะได้ออกมาปั่นจักรยานที่นี่ทุกวัน ที่นี่เงียบสงบมาก เราเห็นชาวเมืองไม่กี่คน บ้างนั่งเล่นอยู่ที่ลานกิจกรรม บ้างปั่นจักรยาน (แบบออกกำลังกายอย่างมืออาชีพ) บ้างวิ่งจ๊อกกิ้ง

นอกจากสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “มนุษย์” จะบางตา แถวนี้แทบจะไม่ค่อยมีบ้านเรือนอยู่เลย เราผ่านบ้านเพียงไม่กี่หลัง บางหลังก็น่ารักน่ชังเหมือนบ้านตากอากาศ และโรงแรมหรู 2-3 แห่งที่วิวสวยน่าดู จนอดแซวเพื่อนสาวผู้ร่วมเดินทางไม่ได้ว่า “ที่นี่เหมาะกับการมาฮันนีมูนเน๊าะ”

ธรรมชาติแถวนี้ก็ดูสวยงามแปลกตา แสงอาทิตย์ยามเย็นส่องให้ผืนหญ้าสะท้อนเป็นสีทองส้มๆ ตัดกับน้ำทะเลสาบสีฟ้าอมเขียว

 

เราปั่นจักรยานและแวะชมธรรมชาติกันอย่างเพลิดเพลินจนตะวันค่อยๆลาลับฟ้า อากาศรอบตัวก็ค่อยๆเย็น เป็นสัญญาณเตือนว่า ถึงเวลาปั่นกลับเข้าเมือง เพราะเราไม่รู้ว่าสภาพไฟฟ้าบนท้องถนนจะเป็นอย่างไร

แม้ว่าสภาพอากาศและสัญญาณครึ้มๆบนฟ้า ทำให้อดหวั่นใจกับการเทรคกิ้งในอีกสองวันข้างหน้า แต่เมื่อมาเหยียบถึงดินแดนในฝันแล้ว ก็บอกกับตัวเอง… เป็นไงก็เป็นไง

ขากลับเราแวะจับจ่ายซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตในเมืองจนเต็มกระเป๋าเป้ แล้วเราก็หลงทางอีก ปั่นขึ้นเขาเลยทางเข้าโฮสเทลไปไกล บนถนนใหญ่ที่รถรามากมาย โชคดีที่เราหาทางกลับโฮสเทลกันได้อย่างปลอดภัย พร้อมความมั่นใจในทิศทางที่ลดลง (ปกติก็ไม่ค่อยมีอยู่แล้ว)

คืนนี้เราทำอาหารทานกันแบบง่ายๆ นอนพักผ่อนเตรียมร่างกายออกไปผจญภัยบนธารน้ำแข็งในวันพรุ่งนี้

การได้มาปั่นจักยานที่นี่ ตอกย้ำกับฉันว่า ทุกการเดินทางมักมีความงามซ่อนอยู่เสมอ ขอเพียงแค่เราเปิดใจออกไปนอกเส้นทางหลัก หรือแวะข้างทางบ้าง

All journeys have secret destinations of which the traveller is unaware – Martin Buber

A dream journey to South America

Part I เรื่องเล่าก่อนออกเดินทาง

Part 2 A Colourful Day in Buenos Aires

Part 3 Ushuaia Welcome to The End of The World

Part 4 Penguins and more on the Beagle Channel

Part 5 Nature walk in the Tierra del Fuego

Part 6 El Calafate and its secret destination

Part 7 Adventure day on the BIG ICE

Part 8 Mt. Fitz Roy, where are you?

Part 9 Puerto Natales: A charming frontier town