บนโลกนี้มีสถานที่น่าสนใจมากมาย แต่อะไรก็ตามที่ได้ขนามนามว่า “ที่สุดของโลก” มักจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เรื่องราวและภาพถ่ายของ “ดินแดนสุดขอบโลก” ผ่านหูผ่านตาฉันมานานหลายปี จนเก็บเอาไปฝันว่าวันหนึ่งฉันจะเดินทางไกลไปยังดินแดนแห่งนั้น
เมืองอูซัวย่า (Ushuaia) ประเทศอาร์เจนติน่า คือเมืองที่อ้างตัวเองว่าเป็น “เมืองใต้สุดของขอบโลก” ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอาร์เจนตินาเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนปาตาโกเนีย (Patagonia)
การเดินทางสุดของโลก
เมืองอูซัวย่าชูป้ายโฆษณา “Welcome to the end of the world” ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือน แต่หากดูจากแผนที่โลก จริงๆแล้วเมืองที่อยู่ใต้ลงไปอีกคือเมืองปูเอโต วิลเลียม (Puerto William) ประเทศชิลี แต่ทางอาร์เจนตินาก็ปฏิเสธที่จะยอมรับโดยให้เหตุผลว่าจำนวนประชากรของเมืองปูเอโต วิลเลียม ยังไม่เข้าข่ายที่จะเรียกว่าเมืองได้ ถึงกระนั้นเมืองอูซัวย่าก็จะเป็นจุดหมายปลายทางสุดขอบโลกของฉันอยู่ดี
เพียงแค่นั่งมองวิวจากริมหน้าต่างเครื่องบินฉันก็ตกหลุมรักดินแดนแห่งนี้เข้าอย่างจัง วิวแรกที่เห็นเมื่อออกมาจากสนามบินคือเทือกเขาสูงที่ล้อมรอบเมืองไว้
จากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองผ่านวิวทิวทัศน์ที่งดงามและบรรยากาศเมืองที่เงียบสงบน่าอยู่อาศัย แม้จะเป็นเมืองที่ไม่ได้คึกคัก แต่ที่นี่ก็มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ด้านหน้าติดทะเลและมีภูเขาโอบล้อมอยู่ด้านหลัง เรียกได้ว่า ทำเลทองจริงๆ
ภารกิจแรกที่มาถึงคือการเดินหาบริษัททัวร์ที่ให้บริการล่องเรือชมนกแพนกวินในช่องแคบบีเกิล (Beagle Channel) ความจริงแล้วฉันอยากไปทัวร์ Walk with Pengiuns ที่เราจะมีโอกาสลงไปเดินบนเกาะที่อยู่อาศัยของนกแพนกวินกันแบบใกล้ๆ แต่โชคชะตาไม่เข้าข้าง สภาพอากาศไม่เป็นใจ บริษัททัวร์ไม่สามารถพานักท่องเที่ยวเข้าไปเดินบนเกาะได้ ฉันจึงทำได้เพียงซื้อทัวร์ล่องเรือไปชมนกแพนกวินเท่านั้น
หลังจากสบายใจเพราะได้ตั๋วเรือล่องช่องแคบบีเกิลมาครอบครองแล้ว ถึงเวลาออกไปเดินเล่นชมเมือง บนถนนซานมาร์ติน (San Martin) ซึ่งเป็นถนนสายหลักของเมือง มีร้านค้า คาเฟ่ ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกอยู่พอประมาณ โบสถ์และบ้านหลังเล็กๆเพิ่มสีสันสดใสให้กับเมืองนี้
มื้อแรกที่เมืองสุดขอบโลก เราออกตามหาอาหารจานเด็ดของที่นี่ นั่นก็คือ เมนูปูยักษ์ (King crab) ซึ่งมีอยู่หลายร้านทั่วเมือง เลือกกันได้ตามชอบใจ เราสั่งเมนูปูยักษ์มาสองอย่าง แม้ว่าหน้าตาและรสชาติไม่ต่างกันมากและอาจจะจืดไปนิดสำหรับชาวปักษ์ใต้อย่างพวกเรา แต่คุณภาพของเนื้อปูนี่สมคำร่ำลือจริงๆ เนื้อปูรสชาติหวานมาก สดและแน่น ให้คะแนนวัตถุดิบ 10 คะแนนเต็มไปเลย ขาดแต่น้ำจิ้มซีฟู้ดเท่านั้น
หลังจากอิ่มอร่อยกับเมนูเนื้อปูยักษ์สดๆแน่นๆ ฉันก็ออกไปเดินย่อยที่บริเวณท่าเรือบนถนนไมปู (Maipu) ซึ่งเป็นถนนหลักอีกเส้นตัดเลียบทะเลไปตามช่องแคบบีเกิล เพื่อตามหาป้ายเมืองสุดขอบโลกกัน
บนถนนเส้นนี้มีพิพิธภัณฑ์สุดขอบโลก (Museo Fin del Mundo) ตั้งอยู่ด้วย แต่กิจกรรมที่ฮิตที่สุดคือ การถ่ายรูปกับป้าย Fin del Mundo ซึ่งเป็นภาษาสเปน แปลว่า End of the World เพื่อเป็นหลักฐานว่าเราเดินทางมาถึงเมืองใต้สุดขอบโลกแล้ว
Welcome to the End of the World…ยินดีต้อนรับสู่ขอบโลก
บรรยากาศริมทะเลชวนให้ผ่อนคลาย ฉันเลยเปลี่ยนใจจากการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ไปเดินเล่นชมบรรยากาศหมู่บ้านริมน้ำและท่าเรือแทน
ตรงบริเวณท่าเรือ มีทั้งเรือบรรทุกสินค้า เรือท่องเที่ยว และเรือประมงจอดเรียงรายกันอยู่
แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คงเป็นเรือ Monte Cervantes ของจริงที่เอียงกะเท่เร่อยู่ในทะเล เรือสำราญที่อับปางลงในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ปีค.ศ. 1930
แม้ความเป็นจุดใต้สุดของโลกจะเป็นเรื่องสมมุติ แต่ทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองนี้คือความจริงที่สัมผัสได้ บ้านไม้หลังเล็กเรียงรายอยู่ริมอ่าวชวนน่าพักผ่อน แอบนึกในใจว่าถ้าได้มาใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ในเมืองสวยสงบแบบนี้ก็คงดีไม่น้อย ใครที่ชอบความสงบคงหลงรักเมืองนี้ได้ไม่ยาก
สำหรับฉัน เมืองอูซัวย่าเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่า…
อยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้…
วันพรุ่งนี้ เป็นอีกหนึ่งที่ฉันตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะฉันกำลังจะได้ไปล่องเรือกลางทะเลใกล้ขั้วโลกใต้ เพื่อไปทักทายเจ้านกแพนกวิน ที่ฉันอยากขนามนามให้ว่าเป็น “สัตว์ที่น่ารักที่สุดของโลก”
ข้อมูลเพิ่มเติม
การเดินทางจากเมืองบัวโนสไอเรส (Buenos Aires) เมืองหลวงของประเทศอาร์เจนตินา ด้วยสายการบินภายในประเทศของอาร์เจนตินา (Aerolineas Argentina) ไปยังสนามบินอูซัวย่า ใช้เวลาประมาณสามชั่วโมงครึ่ง
A dream journey to South America
Part I เรื่องเล่าก่อนออกเดินทาง
Part 2 A Colourful Day in Buenos Aires
Part 3 Ushuaia Welcome to The End of The World
Part 4 Penguins and more on the Beagle Channel
Part 5 Nature walk in the Tierra del Fuego
Part 6 El Calafate and its secret destination
Part 7 Adventure day on the BIG ICE
Part 8 Mt. Fitz Roy, where are you?
Part 9 Puerto Natales: A charming frontier town
3 thoughts on “Ushuaia…Welcome to the End of the World”