หนึ่งปีกำลังจะผ่านพ้นไปอีกแล้ว…
ในปี 2015 ที่ผ่านมา มีหลายสิ่งที่ฉันได้ทำ และอีกหลายสิ่งที่ฉันไม่ได้ทำ มีหลายสถานที่ที่ฉันได้รู้จักมากขึ้น และมีอีกหลายที่ที่อยากไปแต่ก็ไม่มีโอกาส มีของหลายอย่างที่ฉันได้มาครอบครอง และมีอีกหลายอย่างที่ฉันต้องสูญเสียไป มีเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นมากมาย และก็มีเพื่อนอีกหลายคนที่ได้พูดคุยกันน้อยลง สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำๆกันทุกปี เพียงแต่ละปีรายละเอียดของเส้นทางชีวิตแตกต่างกันไปเท่านั้น สำหรับฉัน…ชีวิตก็เหมือนการเดินทางที่เราได้ผ่านหลักกิโลเมตรบนทางหลวง หลายครั้งที่เราเถลไถลออกนอกเส้นทางเพื่อไปเสาะแสวงหาความท้าทายและอะไรใหม่ๆบ้าง แต่เมื่อถึงเวลาหนึ่ง เราทุกคนก็ต้องกลับมาเดินทางบนเส้นทางสายหลักของชีวิตที่เราเลือกเอง
ปี 2015 เป็นอีกปีที่ชีวิตฉันมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ฉันเลือกที่จะลองเปลี่ยนเส้นทางสายหลักของชีวิต ถึงแม้จุดหมายที่คาดหวังจะไม่ได้แตกต่างจากเส้นทางที่เคยเดินอยู่ก่อนหน้า แต่เส้นทางที่แตกต่างออกไปก็น่าจะทำให้ฉันได้ประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างไปเช่นกัน และในขณะที่ฉันมุ่งมั่นเดินไปบนเส้นทางสายหลัก ฉันก็ไม่เคยหลงลืมว่า ฉันยังคงมีอีกความฝันหนึ่งในการออกเดินทางเพื่อเรียนรู้โลก เรียนรู้ชีวิตตัวเองและผู้อื่น และปีนี้ก็เป็นอีกปีที่ฉันมีความสุขกับการซอกแซกออกเดินไปตามถนนเส้นเล็กๆรายทางเหล่านั้น
หนึ่งปีที่กำลังจะผ่านพ้น ฉันเลยรวบรวมประสบการณ์การการเดินทางในรอบปีที่ผ่านมา
Where I have been & What I have seen มีที่ไหนบ้างที่ฉันได้ไป มีอะไรบ้างที่ฉันได้พบเห็น
สิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆได้ออกเดินทางและออกไปใช้ชีวิตให้คุ้มค่า
January: Hanoi-Sapa
เริ่มต้นปีด้วยการออกเดินทางไปประเทศเวียดนามทางตอนเหนือ เมืองฮานอยต้อนรับฉันด้วยสายฝนพรำๆทั้งวัน ฉันจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ นับว่าได้ซึมซับประวัติศาสตร์ของชาวเวียดกันจนอิ่มเลยทีเดียว
จากนั้นก็ได้นั่งรถไฟสายคลาสสิคไปเมืองซาปาเมืองแห่งสายหมอก ทริปนี้ฉันได้กลับไปเยือนหมู่บ้านกั๊ตกั๊ต ได้ไปเดินเทรคกิ้งและเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวเขา ซาปายังสวยและมีเสน่ห์ไม่เปลี่ยนไปเลย
February: Myanmar
เดือนกุมภาพันธ์ฉันได้กลับไปเยือนพม่าอีกครั้ง หลังจากติดอกติดใจประเทศเพื่อนบ้านจากการเดินทางเมื่อปีก่อน ครั้งนี้ฉันใช้เวลากว่าสิบวันในการเดินทางไปหลายๆเมือง นับเป็นทริปที่ประทับใจมากที่สุดของปีเลยก็ว่าได้ เพราะฉันได้ทำความฝันที่จะได้ไปกราบสักการะมหาพุทธบูชาทั้งห้าได้สำเร็จ ได้เห็นได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆมากมาย เป็นทริปที่ครบรส สุข สนุก เศร้า คลุกฝุ่น และไม่สบาย
เริ่มต้นจากการนั่งรถไฟรอบเมืองย่างกุ้ง เป็นการเปิดมุมมองใหม่และได้เห็นวิถีชีวิตของชาวย่างกุ้งอย่างแท้จริง
แล้วเดินทางต่อไปยังเมืองไจ๊ติโยเพื่อไปสักการะพระธาตุอินทร์แขวน หนึ่งในห้ามหาพุทธบูชาของพม่า ที่ซึ่งฉันได้เห็นความมหัศจรรย์และแรงศรัทธาของชาวพุทธ
จากเมืองไจ๊ติโยนั่งรถบัสข้ามคืนไปยังเมืองตองจีและคัคคู เมืองสวยบนเขา ผู้คนน่ารัก อาหารอร่อย
ที่เมืองกะลอว์ เมืองตากอากาศของพม่า เราได้เที่ยวตลาด 5 days market ตลาดที่มีชีวิตและมีเสน่ห์มากๆ แถมได้ทานโรตีที่อร่อยที่สุดในโลกอีกด้วย
จากเมืองกะลอว์ นั่งรถไปเมืองพินดายา ตั้งใจจะไปชมวิวสวยๆที่เค้าลือกันว่า ที่นี่คือสวิสเซอร์แลนด์แห่งพม่า แต่ฉันคงไปผิดฤดูเลยไม่มีวิวดอกไม้สวยๆข้างทางให้ได้ชม แต่กลับประทับใจความยิ่งใหญ่อลังการของจำนวนพระพุทธรูป 8,000 องค์ในถ้ำพินดายาแทน
และในที่สุดฉันก็ได้ไปถึงเมืองมัณฑะเลย์สักที ที่นี่ฉันได้ทำความฝันสำเร็จ นั่นก็คือการได้ไปสักการะและได้ชมพิธีล้างพระพักตร์ของพระมัยมุนี ภารกิจสักการะพุทธมหาบูชาทั้งห้าเสร็จสมบูรณ์ เย้
จากนั้นก็ได้ตระเวณเที่ยวไปตามเมืองเก่ารอบๆมัณฑะเลย์ ทั้งมิงกุน สกาย อังวะ และอมรปุระ เมืองเก่าที่เคยรุ่งเรืองในอดีต การได้มาที่นี่เหมือนได้นั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปในอดีต
March-April: Home sweet home Thailand
เมื่อความตั้งใจที่จะไปเทรคกิ้งที่ Annapura Base Camp ประเทศเนปาลต้องพับเก็บใส่กระเป๋าไว้ก่อน เพราะฉันต้องเข้ารับการผ่าตัด ช่วงก่อนผ่าตัดได้มีโอกาสกลับเมืองไทย ไปทานอาหารทะเลอร่อยๆที่ชลบุรีและได้ไปปั่นจักรยานสูดอากาศบริสุทธิ์ฟอกปอดที่บางกระเจ้า ทริปง่ายๆ ชิลล์ๆ แต่ฟินมาก
June: Kombi van trip in Batam
หลังพักฟื้นจากการผ่าตัด เมื่อเริ่มเดินเหิรได้คล่องขึ้น ฉันก็เริ่มออกเดินทางแบบทริปสั้นๆที่ไม่แอดเวนเจอร์มากนัก เพื่อนชาวสิงคโปร์ชวนฉันนั่งเรือข้ามไปยังเกาะบาตาม ประเทศอินโดนีเซียที่อยู่ไม่ไกลจากสิงคโปร์ ที่นั่น ฉันได้นั่งรถ kombi van เที่ยวรอบเกาะและได้ทานอาหารทะเลที่ถูกและอร่อยมากๆ
July: Tioman island
เมื่อคิดได้ว่าปีนี้ฉันยังไม่ได้แบกเป้เดินทางคนเดียวอย่างจริงจังสักที เมื่อร่างกายเริ่มแข็งแรงขึ้นฉันเลยแพคกระเป๋าไปเที่ยวเกาะเตียวมัน ประเทศมาเลเซีย ได้ใช้ชีวิต slow life คนเดียว เล่นน้ำ ดำน้ำ นั่งรถชมหมู่บ้านชาวประมง และที่ประทับใจที่สุดคือการได้ไปร่วมโครงการอนุรักษ์เต่าทะเล (หวังตอนนี้น้อง JJ คงเติบโตเป็นเต่าทะเลที่สมบูรณ์แล้วนะ)
August: Sugi Island Indonesia
ช่วงวันหยุดยาวสี่วันของสิงคโปร์ ฉันตัดสินใจหนีเมืองใหญ่ไปพักกายพักใจบนเกาะเล็กๆกลางทะเลอินโดนีเซียคนเดียว เกาะซูกี เงียบสงบเหมาะกับการมาพักผ่อนและอยู่กับตัวเองมาก ที่นี่ฉันยังได้เจอเพื่อนใหม่ และได้เห็นวิถีชีวิตชาวเลอินโดที่เรียบง่ายอีกด้วย
September: Switzerland & Germany
กันยายน เป็นเดือนที่ฉันต้องเลือกเส้นทางชีวิตครั้งใหญ่ เมื่อบริษัทเสนอโอกาสในการทำงานที่ประเทศเยอรมนีมาให้ ฉันตัดสินใจอยู่นานแต่ในที่สุดฉันก็เลือกที่จะมาอยู่ไกลบ้านไปอีกครึ่งโลก เพื่อที่จะได้ทำตามความฝันทั้งในด้านหน้าที่การงานประจำที่ทำอยู่และจะได้ท่องโลกแถบยุโรปได้มากขึ้น เดือนนี้ฉันจึงได้มีโอกาสกลับมาประเทศสวิสเซอร์แลนด์และเยอรมนีอีกครั้ง เพื่อพูดคุยถึงการย้ายมาทำงานที่นี่ เมื่อมีเวลาว่างก็ถือโอกาสออกไปชมบ้านชมเมืองอีกเช่นเคย
บรรยากาศริมทะเลสาบเจนีวา เมือง Vevey ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ยังคงเป็นเมืองสวยสงบ ไม่ต่างจากเมื่อสี่ปีก่อนที่ฉันเคยมาเยือนเลย
เพื่อนชาวสวิสแนะนำให้ลองนั่งรถไฟ Panoramic train ขึ้นไปชมวิวภูเขาที่ Rocher de naye วิวที่นั่นสวยจริงจัง ฉันเพลิดเพลินกับการเดินเทรคกิ้งเบาๆบนเขามาก
จากสวิสเซอร์แลนด์ ฉันเดินทางต่อมายังเยอรมนีเพื่อพูดคุยกับที่ทำงานแห่งใหม่ รวมทั้งมาดูที่ดูทางเมือง Konstanz ที่ฉันจะมาอาศัยอยู่สิ้นปีนี้ แค่เพียงพบเจอกันไม่นาน ฉันก็มั่นใจว่าฉันจะอยู่ที่นี่ได้ และหลงรักเมืองเล็กๆริมทะเลสาบ Constance แห่งนี้เสียแล้ว
October: Home sweet home Thailand
เมื่อตัดสินใจว่าต้องย้ายไปทำงานที่เยอรมนีสิ้นปีนี้ ฉันเลยต้องหาโอกาสกลับบ้านเพื่อไปกราบลาคุณพ่อคุณแม่และใช้ชีวิตกับท่าน รวมถึงกลับไปหาเพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัย
ฉันและเพื่อนๆขับรถไปเที่ยวจันทบุรี เมืองน่ารักที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ พวกเราไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรร่วมกันมากมายนัก แค่ได้ทานอาหารอร่อยๆด้วยกัน และไปพักผ่อนด้วยกันท่ามกลางธรรมชาติ เป็น Friendship & Nature Theraphy หรือการบำบัดจิตใจด้วยมิตรภาพและธรรมชาติ
จากจันทบุรีฉันเดินทางกลับหาดใหญ่เพื่อไปใช้เวลากับคุณพ่อคุณแม่ พวกเราขับรถไปเยี่ยมหาน้องสาวที่ชุมพร ไปทานอาหารทะเลอร่อยๆที่ระนองและแวะเดินป่าเส้นทางสั้นๆที่เขาหลัก-พังงา เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของครอบครัว ก่อนที่ฉันจะเดินทางและจากบ้านไปไกลอีกครั้ง
November: Go around Taiwan
ฉันตั้งใจจะไปเที่ยวไต้หวันมานานแล้ว แต่มีเหตุให้ต้องเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ฉันดีใจมากที่ก่อนเดินทางมายุโรปฉันได้มีโอกาสเดินทางไปไต้หวันก่อน แถมยังเป็นการรวมตัวกันกับเพื่อนสนิทของฉันจากหาดใหญ่และจากออสเตรเลียด้วย ถึงแม้ทริปนี้ฟ้าฝนจะไม่ค่อยเป็นใจ ทำให้เราพลาดที่จะได้ชมสถานที่สวยๆที่ตั้งใจไว้ตั้งหลายที่ แต่ก็เป็นทริปที่สนุก อิ่มท้องและอิ่มใจมาก สิบวันในไต้หวัน พวกเราได้ตะลอนไปในไทเป เย่หลิว จิ่วเฟิ่น นั่งรถไฟสายโบราณผิงซี ขับรถเที่ยวอาหลีซัน ปั่นจักรยานรอบทะเลสาบซันมูนเลค (ไว้จะหาเวลานำภาพสวยๆและเรื่องเล่ายาวๆมาเล่าสู่กันฟังอีกทีค่ะ)
December: New life in Germany
ธันวาคม 2015 ฉันเริ่มต้นชีวิตบนเส้นทางสายใหม่ที่เยอรมนี มีอะไรมากมายที่ฉันต้องปรับตัวและเรียนรู้ แต่ก็จะมีประสบการณ์ดีๆอีกมากมายที่รอฉันอยู่ข้างหน้า อีกสามปีข้างหน้าที่อยู่ที่นี่ ฉันจะเจออะไรบ้างก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าฉันต้องทำตัวเองให้พร้อมกับทุกการเปลี่ยนแปลง และฉันก็ต้องใช้ชีวิตให้สนุกอยู่ทุกวัน
แค่เดือนแรก ฉันก็อยู่นิ่งๆไม่ไหว ออกไปทำความรู้จักกับบ้านใหม่และเพื่อนบ้าน จะได้อยู่ด้วยกันดีๆแบบยาวๆ เดือนธันวาคมเป็นเดือนแห่งการสังสรรค์และเฉลิมฉลอง ฉันจำไม่ได้ว่าไปเดินตลาดคริสต์มาสกี่ครั้ง ดื่มไวน์ร้อนไปกี่แก้ว แต่ก็เป็นเทศกาลที่ครึกครื้นดี
อยู่ที่นี่ นอกจากจะฝึกดื่มเบียร์จิบไวน์ทุกวัน ฉันยังได้ช็อคโกแลตทุกวันอีกด้วย เมื่อเพื่อนร่วมงานชวนไปเทศกาลช็อคโกแลตที่เมือง Tübingen ฉันจึงไม่คิดที่จะปฏิเสธ ทั้งสนุกและอร่อยเลยค่ะ
การย้ายมาจากเมืองใหญ่ที่สะดวกสบายมากๆอย่างประเทศสิงคโปร์ มาอยู่เมืองเล็กๆที่เงียบสงบ ฉันต้องปรับตัวค่อนข้างมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะร้านค้าต่างๆที่นี่จะปิดเร็วและไม่เปิดในวันอาทิตย์ จะซื้อของทีนึงต้องวางแผนกันดีๆเลยค่ะ แต่ที่นี่ก็มีตลาดของชาวไร่ชาวสวนที่เรียกว่า Farmer market ทุกๆวันเสาร์ น่ารักดีค่ะ
วันหยุดสุดสัปดาห์หนึ่ง ฉันเดินทางข้ามไปยังประเทศสวิสเซอร์แลนด์เพื่อไปเจอกับเพื่อนๆ โชคดีที่ได้เพื่อนชาวสวิสพาไปเปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยการเดินเล่นบนธารน้ำแข็ง Glacier walk ที่ Glacier 3000 ที่หมู่บ้าน Les Diablerets เป็นอีกทริปหนึ่งที่ประทับใจมากๆ หนาวมากๆ สนุกมากๆ และเป็นสถานที่ที่สวยที่สุดในสวิสเซอร์แลนด์ที่ฉันเคยเห็นมาเลย
ต่อด้วยการนั่งเรือข้ามทะเลสาบไปยังเมือง Evian ประเทศฝรั่งเศส เมืองน้ำแร่ชื่อดัง ที่นี่ฉันได้ไปเดินชมผลงานศิลปะจากไม้ที่เรียกว่า Le Fabuleux Village เป็นศิลปะที่เก๋ไก๋มากๆเลยค่ะ
ช่วงวันหยุดยาวคริสต์มาส-ปีใหม่ ใครๆก็กลับบ้านไปเยี่ยมครอบครัวกันหมด ฉันเพิ่งมาถึงเลยไม่มีโอกาสกลับไปฉลองปีใหม่ที่บ้านเหมือนทุกปี เพราะต้องมีอะไรมากมายที่ต้องทำช่วงวันหยุดนี้ แต่ก็ถือโอกาสจัดทริปสั้นๆช่วงวันคริสต์มาสไปเที่ยวเมือง Munich และ Fussen ที่มิวนิคค่อนข้างเงียบเหงากว่าปกติ แต่ที่เมืองฟุสเซิ่นยังมีนักท่องเที่ยว (โดยเฉพาะชาวเอเชีย) มาเยี่ยมชมปราสาท Hohenschwangau และ Neuschwanstein อย่างคับคั่ง ฉันตั้งใจจะมาถ่ายภาพหิมะปกคลุมปราสาทดิสนีย์ แต่อากาสก็ไม่เป็นใจเช่นเคย หิมะไม่ตก แดดจ้า สะพานชมวิวปิดปรับปรุง ถึงกระนั้นปราสาททั้งสองก็สวยงามมากๆค่ะ ไว้จะกลับไปเก็บภาพที่นั่นใหม่ นับเป็นคริสต์มาสที่เงียบสงบและฟ้าใสมากทีเดียว
นับเป็นปีที่สมบุกสมบันและสนุกสนานพอสมควร
อีกไม่นานก็จะถึงคืนข้ามปี ปีนี้จะเป็นปีแรกที่ฉันฉลองปีใหม่อย่างเงียบเหงาคนเดียวในบ้านหลังใหม่
การส่งท้ายปีเก่า อาจจะไม่ใช่เพียงแค่เวลาเฉลิมฉลอง แต่ยังคงเป็นเวลาที่เราได้คิดทบทวนถึงสิ่งต่างๆที่ผ่านมา อะไรดีๆก็ให้เก็บเป็นความทรงจำ อะไรที่ไม่ดีก็ให้เก็บเป็นบทเรียนนะคะ
ปี 2016 น่าจะเป็นปีที่ชีวิตฉันมีเรื่องราวตื่นเต้นไม่น้อย เป็นกำลังใจให้กันและกันด้วยนะคะ
ขอให้เพื่อนๆทุกคนมีความสุขมากๆในวันสิ้นปี และมีพลังเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความสุข มีแต่สิ่งดีๆเข้ามา และได้ออกเดินทางเยอะๆนะคะ
H A P P Y N E W Y E A R ค่ะ