ฉันจำไม่ได้ว่าของเล่นชิ้นแรกคืออะไร
จำได้แค่ ตอนเด็กๆฉันไม่เคยได้ของเล่นราคาแพงประเภทตุ๊กตาบาร์บี้หรือเกมกดอย่างเพื่อนข้างบ้าน
ของเล่นที่พ่อกับแม่ชอบซื้อให้และฉันก็พึงใจ ก็คือ ตุ๊กตากระดาษ และชุดเครื่องครัวดินเผา
ฟังดูฉันน่าจะโตมาเป็นกุลสตรีไทย แต่เปล่าเลย
ฉันคิดว่า ของเล่นเหล่านั้น…เป็นของเล่นเสริมสร้างจินตนาการ
โตขึ้นมา ฉันจึงเป็นคนชอบจินตนาการ หรือชอบฝันเฟื่องนั่นเอง
เมื่อวาน…
ฉันใช้เวลาเกือบครึ่งวันเต็มๆ เล่นกับน้องธี ลูกชายของเพื่อนสนิท
น้องธี เป็นหนุ่มน้อยวัยสองขอบ ที่กำลังน่ารัก ช่างซักช่างถาม
น้องธีเรียกฉันว่า “ป้าจุ๊” ทั้งๆที่ฉันพยายามเกลี้ยกล่อมเด็กน้อยให้เรียกว่าว่า “น้าจุ๊” จะได้ฟังดูไม่แก่เกินไป
หรือจะเรียก “จุ๊จิ๊” แบบที่น้องธีเคยเรียกฉันเมื่อตอนเด็กกว่านี้ตามที่เพื่อนๆชอบเรียกฉัน
แต่ดูเหมือนน้องธีจะเคยชินกับการเรียก “ป้าจุ๊” ตามที่คุยยายเรียกให้ฟังไปเสียแล้ว
น้องธีจูงมือฉันขึ้นไปชั้นบนของบ้าน ในห้องมีของเล่นมากมาย
ของเล่นเสริมสร้างจินตนาการของเด็กๆสมัยนี้เปลี่ยนไปตามยุคสมัย เช่น ตัวต่อเลโก้ โมเดลรถนานาชนิด
น้องธีชวนฉันเล่น เริ่มตั้งแต่ การต่อรางรถไฟ ฉันปล่อยให้หนุ่มน้อยคิด จินตนาการ และแก้ปัญหารถไฟตกราง
(เพราะรางรถไฟไม่สมบูรณ์แบบ) จนน้องธีถอนหายใจแล้วบ่นว่า “ยากจัง” ฉันอดยิ้มไม่ได้กับภาพตรงหน้า
ถึงแม้งานต่อรางรถไฟจะยาก แต่หนุ่มน้อยก็ตั้งใจและมีความสุขกับงานตรงหน้า
รางรถไฟที่ไม่สมบูรณ์แบบถูกปล่อยทิ้งไว้ หลังจากที่น้องธีเริ่มแนะนำให้ฉันรู้จักรถนานาชนิดของเขา
นับตั้งแต่รถแข่ง รถทหาร รถบด รถบรรทุก รถเครน ฉันคำนวณจากสายตา คาดว่าน้องธีน่าจะมีรถมากกว่า 30 คัน
แล้วน้องธีก็หยิบรถทหารคันหนึ่งขึ้นมา พูดว่า “คันนี้ป้าจุ๊ซื้อให้ จำได้มั๊ย”
จินตนาการของเด็กน้อยทำให้ฉันหัวเราะออกมาเบาๆ เพราะฉันไม่เคยซื้อของเล่นมาฝากน้องธีเลย
ฉันเริ่มรู้แล้วว่า น้องธีชอบอะไร และฉันควรจะซื้ออะไรมาฝากน้องธี
น้องธีค่อยๆเก็บของเล่นโมเดลรถลงในกล่อง เราช่วยกันเก็บจนเกือบหมด
แล้วน้องธีก็หยิบกล่องพลาสติกที่มีดินน้ำมันหลากสีออกมาวางตรงหน้าฉัน
“ป้าจุ๊ ปั้นปลานีโม่ให้หน่อย”
ฉันอดยิ้มไม่ได้อีกครั้ง คิดในใจ…นานเท่าไหร่แล้วที่มือฉันไม่ได้เปื้อนดินน้ำมัน
ฉันค่อยๆลงมือปั้นปลาตัวน้อย แล้วบอกว่า “น้องธี นี่ไงปลานีโม่”
น้องธีบอกว่า “ไม่ใช่ๆ นี่ปลาทอง” ฉันหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น
จริงสิ ปลานีโม่ที่ฉันปั้นมันหน้าตาเหมือนปลาทองมากกว่า เพราะตาโตแก้มป่องกว่าปลานีโม่ที่น้องธีเคยเห็นตอนไปดำน้ำที่พังงา หลังจากนั้นปลาทองอีกหลายตัวก็ถูกปั้นขึ้นมา เพราะน้องธีบอกว่า ที่บ้านน้องธีมีปลาทองหลายตัว
แล้วงานยากก็มาถึง เมื่อน้องธีเอ่ยปาก “ป้าจุ๊ๆ ปั้นปลาหางนกยูงด้วย ปลาเข็มด้วย งูด้วย แมวด้วย”
โชคดีที่ครั้งนี้ จินตนาการของเราสองคนตรงกัน
ฉันภูมิใจที่น้องธีชื่นชอบผลงานปั้นแสนห่วยของฉัน น้องธีปรบมือบอกว่า “น้องธีมีสัตว์เต็มบ้านเลย”
น้องธีเป็นเด็กที่ได้รับการปลูกฝังให้มีจิตใจดี รักสัตว์ ไหว้พระ นั่งสมาธิ
เราปั้นจินตนาการกันจนดินน้ำมันหมดกล่อง แล้วจึงหันไปเล่นตัวต่อเลโก้
ด้วยวัยที่ห่างกันหลายรอบ ฉันไม่ค่อยถนัดกับของเล่นชนิดนี้นัก เลยต่อชิ้นพลาสติกรูปร่างต่างๆไปตามแบบตัวอย่างบนกล่องอย่างไร้จินตนาการ จนน้องธีส่งเสียงว่า “ป้าจุ๊ๆ ทำที่จอดรถ น้องธีไม่มีที่จอดรถ” แล้วเราก็สร้างที่จอดรถด้วยกันอย่างสนุกสนาน ที่จอดรถของเรามีขนาดใหญ่ จอดรถโมเดลได้หลายคัน มีทั้งทางลาดและลิฟท์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายตามจินตนาการ
เราเล่นกันเพลินจนลืมเวลา ผ่านไปจนถึงเที่ยง คุณแม่ของน้องธีก็มาเรียกเพื่อที่จะออกไปทำธุระอย่างอื่นกันต่อ
เพื่อนเอ่ยขอบคุณที่ฉันมาเป็นเพื่อนเล่นกับน้องธีวันนี้ ฉันต่างหากที่อยากขอบคุณน้องธีที่ช่วยปั้นจินตนาการมากมาย
ฉันรู้สึกสนุก ผ่อนคลาย คล้ายๆได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
ใครบอกว่า ของเล่น เป็นสิ่งไร้สาระสำหรับเด็ก
ฉันว่า เด็กเล็กๆคือวัยกำลังเล่น เราต้องปล่อยให้เขาเล่นให้เขาซนไปตามวัย
หลายครั้งที่จินตนาการซนๆของเด็ก ได้สอนเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ผู้ใหญ่หลงลืมไปด้วย
หน้าที่ของผู้ใหญ่คือ อย่าปิดกั้นจินตนาการ แต่ต้องช่วย“ปั้นจินตนาการ”ให้เด็ก