ฮานอย เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม
อดีตเมืองหลวง ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
เมืองที่เราคงได้สัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวเวียดนามอยู่ทุกซอกทุกมุม
หากมีเวลาเพียงหนึ่งวันในเมืองฮานอย แถมยังเป็นวันที่ฝนตกพรำๆทั้งวัน
อย่าเพิ่งถอดใจค่ะ
ฮานอยยังมีสถานที่น่าสนใจมากมายให้เราหลบฝนและดื่มด่ำวัฒนธรรมกันแบบเต็มอิ่มได้
ตามไปเที่ยวฮานอยแบบ indoor กันค่ะ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว…
เที่ยวไปตามใจฉัน 5 วันการเดินทางสู่ซาปาเมืองในหมอก
ติดตามข้อมูลรายละเอียดเส้นทาง การเดินทาง และที่พักจากฮานอยสู่ซาปาได้จากเรื่องเล่าตอนที่แล้วได้ตามลิงค์นี้นะคะ
https://talesfromthebackpackblog.wordpress.com/2015/02/01/เที่ยวไปตามใจฉัน-5-วันกา/
สำหรับตอนนี้ จุ๊จะรวบรวมการเดินทางในเมืองฮานอยฉบับในร่มหลบฝน แบบเน้นๆ
อย่าให้สายฝน เป็นอุปสรรคในการเดินทาง หนึ่งวันในฮานอย เราก็เที่ยวแบบชิลล์ๆได้
ออกจากสนามบินฮานอย จุ๊ขออนุญาตพี่เจแปน (ผู้เป็นทั้งเพื่อนรัก พี่สาว และเพื่อนร่วมงาน)
ออกไปตามหาร้านเบเกอรี่ร้านโปรดสุดชิค นั่นก็คือร้านโจมา Joma Berkery ค่ะ
จุ๊ชื่นชอบร้านนี้มาตั้งแต่เวียงจันทน์และหลวงพระบาง เมื่อได้ข่าวว่ามาเปิดสาขาที่ฮานอย แล้วจะพลาดได้อย่างไร
ฝนปรอยๆแบบนี้ ขอไปนั่งจิบกาแฟกับชีสเค้กที่อร่อยที่สุดในโลก
ร้านโจมาที่ฮานอย มีบรรยากาศชิคๆไม่ต่างจากที่หลวงพระบางและเวียงจันทน์เลย
หากเพื่อนๆสนใจไปชิมชีสเค้ก ว่าอร่อยสมคำร่ำลืออย่างที่จุ๊บอกหรือเปล่า ก็ตามไปชิมกันได้นะคะ
Address: 22 Lý Quốc Sư, Hàng Trống, Hoàn Kiếm, Hà Nội, Vietnam เดินไม่ไกลจาก St Joseph Cathedral
เปิดทุกวันตั้งแต่ 7:00am – 9:00 pm กันเลยค่ะ
หรือติดตามที่เว็บไซต์ของ Joma ได้เลย มีรายละเอียดของเมนูอาหารและสาขาจากหลายๆประเทศค่ะ
หลังจากอิ่มท้องและอิ่มใจจากร้านโจมากันแล้ว ฝนก็ยังโปรยปรายไม่หยุด
เราสองคนเลยเปลี่ยนบรรยากาศไปชมพิพิธภัณฑ์กันบ้าง
พิพิธภัณฑ์แรกที่อยากแนะนำคือ The Vietnamese Women’s Museum ค่ะ
ที่นี่เปิดเป็นแกลอรี่ที่น่าสนใจมาก แบ่งออกเป็น 3 ธีมหลักๆ ได้แก่
Women in Family ซึ่งจะบอกเล่าเรื่องราวบทบาทของผู้หญิงเวียดนามในครอบครัว ตั้งแต่แต่งงาน เลี้ยงลูก และทำงานหาเลี้ยงครอบครัว
ผู้หญิงเวียดนามนี่เค้าทำงานหนักมากจริงๆค่ะ ลองยกดู ซึ้งเลย
Women in History เป็นธีมที่บอกเล่าเรื่องราวบทบาทของผู้หญิงเวียดนามในเหตุการณ์สำคัญทางประศาสตร์ เช่น สงครามเวียดนาม หรือในช่วงเวลาที่เวียดนามตกเป็นเมืองขึ้นของประมหาอำนาจ เราจะได้ซึมซับความเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว และเสียสละของผู้หญิงเวียดนามค่ะ
Women’s Fashion เป็นธีมที่บอกเล่าเรื่องราวชุดแต่งกายแบบพื้นเมืองของชนเผ่าต่างๆในประเทศเวียดนามค่ะ นอกจากเราจะได้ชมเครื่องแต่งกายที่แตกต่างกันของแต่ละเผ่าแล้ว ยังได้เห็นชุดที่ชาวเวียดนามใช้ในแต่ละโอกาสและพิธีกรรมด้วย เช่นชุดแต่งงานของชาวเขา รวมไปถึงวิธีการและเครื่องมืออุปกรณ์ตัดเย็บเสื้อผ้าของพวกเขาด้วย
ลายปักผ้าของเวียดนามมีลวดลายคล้ายๆกับลายผ้าของชาวเขาทางภาคเหนือของไทยและลาวค่ะ
และที่ไม่ต่างจากพิพิธภัณฑ์อื่นๆก็คือ โซนขายของที่ระลึกค่ะ ที่นี่มีสินค้าพื้นเมืองสวยๆน่าซื้อกลับบ้านเยอะแยะเลย
โดยส่วนตัว…จุ๊ชอบที่นี่มากนะคะ จุ๊ว่าเค้าจัดได้ดีทีเดียว อาจเป็นเพราะจุ๊ชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์เป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย
เพราะการเที่ยวพิพิธภัณฑ์ เป็นเหมือนการเรียนรู้วิธีชีวิต ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของสถานที่นั้นแบบหลักสูตรเร่งรัด
น่าแปลกใจที่ไม่ค่อยเห็นคนไทยมาเที่ยวชมที่นี่ ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกค่ะ (อ่านรีวิวฮานอย ส่วนใหญ่คนไทยจะไปชอปปิ้ง)
หากเพื่อนๆสนใจที่นี่ก็สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของที่นี่ได้จากเว็บไซต์
http://vietnamtourism.com/vietnamwomenmuseum_e/
Address: 36 Ly Thong Kiet, Hoan Kiem, Hanoi
เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 8:00am – 17:00pm ยกเว้นวันจันทร์ค่ะ
ค่าเข้าชม 30.000 VND
สถานที่ในร่มแห่งที่สองที่อยากแนะนำคือ คุก ค่ะ
คุกเมสัน Maison Centrale หรือที่ชาวเวียดเรียกว่า Hoa Lo Prison
เป็นคุกที่สวยและหดหู่มากที่สุดแห่งหนึ่งที่จุ๊เคยไปสัมผัสมา
ที่นี่เป็นเรือนจำกลางในสมัยที่เวียดนามตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ใช้คุมขังนักโทษทางการเมืองในช่วงสงครามเวียดนาม ประมาณปี 1990 ปัจจุบันที่นี่ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงสภาพและชีวิตของเป็นอยู่ของนักโทษชาวเวียดในสมัยนั้น
คำว่า Hoa Lo ในภาษาเวียดนาม แปลว่า ขุมนรก
บรรยากาศหดหู่ ทั้งภาพถ่าย รูปปั้นจำลองชีวิตความเป็นอยู่ของนักโทษ เครื่องมือในการลงโทษ บรรยากาศอาคารเก่า
เราใช้เวลาจมดิ่งอยู่กับประวัติศาสตร์ เรียนรู้เรื่องราวอันโหดร้ายในอดีตอยู่หลายชั่วโมงเชียว
ห้องขังนักโทษรวม รูปปั้นจำลองนักโทษจะถูกตรึงข้อมือและข้อเท้า รูปปั้นแสดงสีหน้าทรมานและเป็นทุกข์ หดหู่จริงๆ
จำลองเหตุการณ์นักโทษขุดโพรงใต้ดินเพื่อหนีออกจากคุกนรกแห่งนี้
เครื่องตัดหัวนักโทษ แถมมีภาพถ่ายประกอบ เป็นห้องที่ทำให้ใจเหือดแห้ง เบาหวิว ล่องลอย น่าสงสารพวกเขาค่ะ
ส่วนนี้เป็นห้องขังของนักโทษทางการเมืองที่สำคัญ จะเป็นห้องขังเดี่ยวแคบๆ ที่มีก่อผนังหนามาก เพื่อป้องกันการหลบหนีค่ะ
จุ๊ว่าที่นี่จัดแสดงได้ดีทีเดียวค่ะ มีครบทั้งภาพถ่าย รูปปั้นจำลอง และของจริงที่เก็บมาตั้งแต่สมัยนั้น
ด้านนอกอาคารก็มีอนุสรณ์สำหรับระลึกถึงนักโทษผู้เสียสละต่อสู้เพื่ออิสระภาพของประเทศ
จุดขายของที่ระลึก
ทุกครั้งที่เดินออกจากอนุสรสถานหรือพิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการต่อสู้และสงคราม
สิ่งที่จุ๊ได้เรียนรู้เหมือนกันไม่ว่าจากที่ใดก็ตาม นั่นก็คือ สงคราม ไม่เคยก่อประโยชน์แก่ผู้ใดอย่างแท้จริง
ทำไมมนุษย์จึงต้องเข่นฆ่ากันเอง เพียงเพื่อตอบสนองกิเลส ความเห็นแก่ตัว และความต้องการที่ไม่สิ้นสุดของคนเพียงไม่กี่คน
อย่ารอให้ถึงเวลาที่เราต้องสูญเสีย แล้วค่อยนึกถึงคำว่า “สามัคคี”
โลกนี้มีบทเรียนความเจ็บปวดจากการต่อสู้กันเองของมนุษย์มากพอแล้ว
เรือนจำกลางเมสัน เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 8:00am – 17:00pm ปิดช่วงเวลาพักเที่ยงตั้งแต่ 11:30-13:30 ค่ะ
Address: Hoả Lò, Trần Hưng Đạo, Hoàn Kiếm, Hà Nội, Vietnam
ค่าเข้าชม 20.000 VND
เราสองคนออกจากคุกเมสันมาตอนบ่ายแก่ๆ ฝนยังคงตกพรำๆ จากที่ตั้งใจว่าจะไปเดินเล่นแถวๆทะเลสาบทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม
ก็ต้องพับใส่กระเป๋าไป อากาศเย็นๆแบบนี้ ได้ทานเฝอร้อนๆสักชามก็คงจะอุ่นท้องดีไม่น้อย
ว่าแล้วก็มุ่งตรงไปตามหาร้านเฝอที่มีคนท้องถิ่นแนะนำว่าอร่อยมากแห่งหนึ่งในฮานอย
Pho Thin เป็นร้านเฝอเล็กๆ มองภายนอกดูเก๋ๆ เพราะพ่อครัวและพนักงานเสริ์ฟเป็นวัยรุ่นดูอินดี้ เข้ากับเราสองคนมาก อิอิ
ในร้านมีแต่คนโลคอล ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย ไม่มีเมนูภาษาอังกฤษด้วย
จุ๊เลยเดินตรงไปหน้าร้าน คุยกับพ่อค้าอินดี้ด้วยภาษามือ ชี้โบ้ชี้เบ้ ว่าเอานั่นเอานี่ แล้วก็กลับมานั่งลุ้นกันที่โต๊ะ
ว่าอาหารที่สั่งหน้าตาเป็นยังไง
เฝอฮานอยจะหน้าตาต่างจากเฝอที่คนไทยคุ้นเคยกัน ที่นี่จะใช้เนื้อสับ หมูสับหรือไก่สับ แทนเนื้อ/หมู/ไก่เป็นแผ่นๆหรือเป็นชิ้นๆแบบทางเวียดนามใต้ โรยหน้าด้วยต้นหอมเขียวๆเต็มชาม ตอนแรกก็แอบกลัวว่า ใส่ต้นหอมเยอะขนาดนี้ ต้องเหม็นเขียวแน่เลย แต่หลังจากลองชิมไปหนึ่งชามใหญ่ๆ อร่อยมากเลยค่ะ น้ำซุปหวานกลมกล่อม (คงใส่ผงชูรสไปเย ะ ตามแบบฉบับเฝอเวียด) เนื้อสับเข้ากับต้นหอมมากๆ เส้นเฝอหรือเส้นก๋วยเตี๋ยวนุ่มสุดๆไปเลย
หันไปเห็นชาวเวียดข้างๆสั่งปาท่องโก๋มาทานแกล้มกับเฝอ เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ชี้บอกพนักงานอินดี้ว่า เอาแบบนี้มาหนึ่งจานค่า อร่อยดีนะ คล้ายๆกินปลาท่องโก๋กับโจ๊กแบบบ้านเรา หรือปาท่องโก๋กับบากุตเต๋ที่สิงคโปร์หรือมาเลเซีย อารมณ์นั้น
ไม่แน่ใจว่าร้าน Pho Thin เปิดตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง
แต่ลองเสี่ยงไปชิมกันได้ตามที่อยู่นี้ค่ะ
Address: 13 Lò Đúc, Phạm Đình Hồ, Hai Bà Trưng, Hà Nội, Vietnam
อิ่มท้องแล้ว ฝนก็ยังตกไม่หยุด จะออกไปเดินเล่นที่ไหนได้ มืดแล้วด้วย
จุ๊เลยลองเอ่ยปากชวนพี่เจแปนไปดูการแสดงการแสดงหุ่นกระบอกน้ำที่ THANG LONG WATER PUPPETS THEATRE
เพราะเห็นว่าพี่สาวยังไม่เคยชมเลยสักครั้ง ทั้งๆที่มาเวียดนามก็หลายหน และจุ๊ก็อยากรู้ว่าโชว์หุ่นกระบอกน้ำทางเหนือต่างจากทางใต้หรือที่โฮจิมินห์หรือเปล่า จุ๊เคยมาชมที่ฮานอยนานมากแล้วจนแทบจำรายละเอียดอะไรไม่ได้
โรงละคร THANG LONG WATER PUPPETS THEATRE อยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม
มีนักท่องเที่ยวมาซื้อตั๋วเข้าคิวรอชมเยอะมาก โชคดีที่พวกเราสามารถหาซื้อตั๋วได้
ระหว่างรอรอบการแสดงที่พวกเราจองตั๋วไว้ ก็ลองไปเดินชมบริเวณรอบๆทะเลสาบทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม แต่บรรยากาศฟ้าครึ้มฝนโปรยไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่เลย สังเกตว่า เดี๋ยวนี้มีรถบริการพาเที่ยวชมรอบๆทะเลสาบซะด้วย ไฮโซเชียว
ขนาดฝนตกแบบนี้ สิงห์นักบิดแห่งฮานอยก็ยังขี่มอเตอร์ไซด์กันเฟี้ยวฟ้าว สมกับเป็นเมืองหลวงแห่งมอเตอร์ไซด์ของโลกจริงๆ ข้ามถนนทีนี่ใจเต้นตุบตับตลอดเลย
พวกเราได้ที่นั่งชมการแสดงหุ่นกระบอกด้านหลังเลยค่ะ มองเห็นแบบไกลๆ โรงที่นี่ใหญ่และมีจำนวนรอบมากกว่าที่โฮจิมินห์เยอะ เพราะต้นกำเนิดของหุ่นกระบอกน้ำอยู่ที่นี่ แต่โดยส่วนตัวจุ๊ชอบการแสดงของที่โฮจิมินห์มากกว่า สนุกสนานกว่า ประมาณว่าดูหนังตะลุงของภาคใต้แบบนั้นเลยค่ะ คราวนี้ถ่ายภาพได้ไม่เยอะเพราะไกลมาก ไว้จะนำภาพที่โฮจิมินห์มาให้ชมกันอีกทีนะคะ
การแสดงของฮานอยจะเนิบๆค่อยเป็นค่อยไป แม้ว่าจะฟังไม่รู้เรื่องแต่ก็สามารถเข้าใจเรื่องราวได้ค่ะ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการถ่ายทอดถึงวิถีชีวิตของชาวเวียนามในชนบท ซึ่งไม่แตกต่างจากประเทศไทยในสมัยก่อนนัก เอาเป็นว่า ลองไปชมกันดูเองนะคะ ว่าจะชอบกันหรือเปล่า
ที่อยู่ 57b Đinh Tiên Hoàng, Hoàn Kiếm, Hà Nội, Vietnam
ค่าเข้าชม 60.000 VND หากมีกล้องถ่ายภาพก็จะต้องเสียซื้อตั๋วถ่ายภาพ 20.000 VND หรือ 60.000 VND สำหรับกล้องวิดีโอค่ะ
การแสดงจะใช้เวลาประมาณ 50-60 นาที หากอยากได้ภาพสวยๆ แนะนำว่าให้เลือกนั่งด้านหน้าหรือตรงกลางนะคะ ที่ฮานอยจะเป็นโรงใหญ่ หากนั่งด้านหลังจะถ่ายภาพค่อนข้างยากค่ะ
หลังจากชมการแสดงแล้ว พวกเรายังมีเวลาชั่วโมงกว่าๆ ก่อนที่จะถึงเวลานัดรับตั๋วรถไฟไปซาปา
เลยลองไปเดินชมบรรยากาศแถว Old Quarter หรือย่านตลาดเก่าดู เผื่อจะเจอคาเฟ่ชิคๆให้นั่งเล่น
ปรากฏว่าไปเจอบรรยากาศตลาดสดแทนค่ะ คำ่แล้วเลยไม่ค่อยมีอะไรให้ชมเท่าไหร่ ปกติจ๊ชอบเดินชมตลาดสดมาก
แต่วันนี้เฉอะแฉะไปหน่อย และร้านรวงก็เริ่มเก็บหมดแล้ว พวกเราเลยกลับไปร้านโจมาเบเกอรี่กันอีกรอบแทน
ภาพบรรยากาศตลาดสดยามฝนพรำค่ะ
แล้วก็ใกล้ถึงเวลาที่เรานัดบริษัทที่ซื้อตั๋วรถไฟไปซาปา มาส่งมอบตั๋วที่สนามบิน ซึ่งปกติเค้าจะนัดให้มารับตั๋วและจ่ายเงินประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนเวลารถไฟออกค่ะ บอกคนขับรถให้มาส่งที่สถานีรถไฟฮานอย โดยที่เราไม่รู้ว่าสถานีมีสองฝั่ง มาถึงแล้วก็โทรหาเจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ว่า “ฉันมาถึงแล้วนะ เธออยู่ไหน” เธอก็ตอบกลับมาว่า “ฉันก็อยู่นี่แล้ว ทำไมไม่เห็นเธอ” โทรคุยกันอยู่อย่างนี้หลายรอบมาก ก็ยังหากันไม่เจอ ถามเจ้าหน้าที่หรือผู้คนแถวนั้น ก็ยืนยันว่าเรามาถูกที่แล้ว กว่าจะรู้ว่า เจ้าหน้าที่รอเราอยู่อีกฝั่งหนึ่งของสถานีรถไฟก็จวนเวลารถไฟออกมากแล้ว เราสองคนรีบวิ่งหน้าตั้งลากและแบกกระเป๋าข้ามผ่านรางรถไฟประมาณ 8 ชานชาลาเพื่อข้ามไปอีกฝั่ง มีลุ้นวิ่งตัดหน้ารถไฟกันด้วย เรียกได้ว่า ถ้าเกิดอุบัติเหตอะไร จุ๊คงรู้สึกผิดไปจนวันตาย เป็นอะไรที่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างนะคะ
สำหรับคนที่จองตั๋วรถไฟเองไม่ได้ซื้อทัวร์แบบจุ๊ ต้องนัดกับเจ้าหน้าที่ให้ดีว่ารับตั๋วที่ฝั่งไหน ระหว่าง Gar Ha Noi หรือ Tran Quy Cap
สำหรับรายละเอียดการจองตั๋วรถไฟ ก็อ่านกันได้ที่รีวิวก่อนหน้านี้ ตามลิงค์ที่จุ๊แนบไว้ช่วงต้นเลยค่ะ
นำภาพขบวนรถไฟสุดคลาสสิคสายฮานอย-ซาปา มาให้ชมกันอีกที พวกเราใช้บริการของ Sapaly Express Train ประทับใจค่ะ
ตู้สวย สะอาด ที่นอนนุ่มสบาย การเดินทาง 10 ชั่วโมง ทำให้เราสองคนนอนหลับพักผ่อนกันเต็มอิ่มมาก
สถานีต่อไป ลาวไค และการเดินทางสู่เมืองซาปาจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ
เที่ยวไปตามใจฉัน ตอนที่ 2 ซาปาเมืองในหมอก
เที่ยวไปตามใจฉัน ตอนที่ 3…เทรคกิ้ง 13 กิโลม้ง หมู่บ้าน Ma Tra – Ta Phin
สำหรับคนที่พลาดแนะนำการเดินทางสู่ฮานอยและซาปา สามารถย้อนอ่านได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้
เที่ยวไปตามใจฉัน…5 วันการเดินทางสู่ซาปาเมืองในหมอก
การเดินทางหนึ่งวันในฮานอยค่ะ
เที่ยวไปตามใจฉัน ตอนที่ 1…เมื่อฮานอยฝนตกทั้งวันไปไหนดี
ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ ขอให้สนุกกับการเดินทางค่ะ